อวลไอรัก กลิ่นบุปผา - นิยาย อวลไอรัก กลิ่นบุปผา : Dek-D.com - Writer
×

    อวลไอรัก กลิ่นบุปผา

    ซื่อจื่อผู้เย็นชา เขาไม่เคยอยากใช้ชีวิตร่วมหอกับผู้หญิงอ่อนแอน่าสมเพช หากแต่นางผู้นี้เป็นใครไฉนถึงน่าหลงไหลเพียงนี้

    ผู้เข้าชมรวม

    1,641

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    1.64K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    18
    จำนวนตอน :  38 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  28 พ.ย. 66 / 09:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ต้นฤดูเหมัน

    "นายหญิงเจ้าคะ ซื่อจื่อกลับมาแล้วเจ้าค่ะ!!"

     

    เสียงแผดดังโวยวายดังขึ้นภายในจวนอ๋องฉู่ อ๋องที่ขึ้นชื่อเรื่องความเก่งกาจของกำลังรบ เป็นอ๋องที่องค์ฮ่องเต้ทรงมีพระทัยชื่นชอบมากที่สุด

     

    ขบวนรถม้าวิ่งเข้ามาจอดอยู่หน้าจวนพร้อมกับกำลังทหารที่ตามอารักษ์ขาซื่อจื่อของแคว้นอยู่ไม่ห่าง

     

    ผ้าผืนหนาถูกลำแขนแข็งแกร่งปัดออกให้พ้นทาง เผยร่างชายคนหนึ่ง ใบหน้าขาวราวหิมะแรกตก แต่กลับนิ่งขรึมคล้ายหิมะน้ำแข็งเสียมากกว่า

     

    เขาปรายตามองดูจำนวนผู้คนที่มาต้อนรับ ไล่ตั้งแต่เสด็จแม่ของตัวเอง น้องสาวจอมจุ้น คนใช้ตามลำดับต่าง ๆ แต่หาได้มีนางผู้หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าภรรยาของตนไม่

     

    ความสงสัยคับแน่นขึ้นมาในใจเล็กน้อย แต่หากคิดกลับกัน อิสตรีนางนั้นช่างอ่อนแอปวกเปียกนัก ตลอดเวลาที่แต่งเข้าจวนมาด้วยกันซื่อจื่อคนนี้ก็ไม่เคยคิดจะแตะต้องภรรยาในนามเลยแม้สักนิดเดียว

     

    นางจะเป็นเช่นไร หาใช่ธุระของเขาไม่ เซินเยี่ย ชายผู้มีหน้าที่ใหญ่หลวงมาตั้งแต่เกิด และรับภาระหน้าที่ซื่อจื่อของแคว้นมาตั้งแต่เด็ก เขาเดินเข้าไปคำนับท่านแม่ของตัวเองด้วยท่าทีองอาจแต่กลับเจือความนอบน้อมแฝงเข้าไปด้วย

     

    "ลูกแม่ เจ้าไปทำศึกครานี้ช่างซูบผอมลงมากนัก" นายหญิงของจวนทั้งลูบทั้งคลำสำรวจลูกชายของเธออยู่อย่างนั้น หยดน้ำตาสีไสไหลหยดลงที่พวงแก้มงามของผู้เป็นแม่

     

    "ลูกสบายดี ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงไป" ใบหน้าเรียบนิ่งยังคงฉายแววตาเยือกเย็นออกมา

     

    "เข้าจวนเถอะเพคะ อากาศหนาวมากเดี๋ยวท่านแม่จะอาการทรุดได้"

     

    ลูกชายและลูกสาวของจวนสกุลฉู่ต่างขนาบข้างพยุงแขนของมารดาเดินเข้าจวนไป นี่ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจยิ่งนัก

     

    ในจวนขนาดกลางที่ถูกสร้างออกแบบมาให้ห่างไกลจากผู้คน ร่างกายขาวเนียนที่สวมใส่เพียงเสื้อคลุมยาวบาง ๆ เพื่อความสบายตัวของผู้ใส่ หย่อนสายรัดออกหลวม ๆ เผยให้เห็นแผกอกกำยำ เขานั่งอ่านตำราอยู่ที่โต๊ะหนังสือของตน หากมองจากด้านข้างจะเห็นความโด่งเป็นสันของจมูก

     

    เบ้าหน้าฟ้าประทานของจริงเลยล่ะ เขามัวสนใจเพียงตำราต่าง ๆ ที่อยู่ตรงหน้าจนลืมหันมาสนใจคนที่มาใหม่ คราแรกนึกว่าเป็นเพียงสาวใช้ที่ยกน้ำชามาให้ตามคำสั่ง แต่นางคนนั้นกลับยังยืนนิ่งอยู่หน้าประตูจนเขานึกสงสัย

     

    สายตาคมดุดันดุจพยัคฆ์ร้ายตวัดมองไปที่หน้าประตูนั่น เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดพลันซายตาก็เปลี่ยนกลายเป็นความเย็นชาทันควัน

     

    "หนิงเอ๋อคาระวะซื่อจื่อ" นางยอบกายลงเล็กน้อย แต่ท่าทางกรโดกกระเดกไม่สมกับท่าทางที่ขุนนางใช้นั้นทำให้เขารู้สึกขบขันในใจหลายส่วน

     

    "ซื่อจื่อคือข้ามีเรื่องจะปรึกษ-" หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยสีหน้าดีใจยิ่ง

     

    แต่หญิงสาวยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยคเซินเยี่ยผู้นี้ก็เดินดุ่ม ๆ ผ่านหน้านางออกไปอย่างไร้เยื่อใย!!

     

    *** ขอแนะนำนิยายเรื่องใหม่ เนื่องจากว่าเรานั้นกำลังจะจบโปเจคเดิมลง ก็ได้ฤกษ์งามยามดีมาเปิดเรื่องใหม่กันเถอะ!!***

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น